ทัวร์เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง 3 วัน 2 คืน

โปรแกรมทัวร์ เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง 3 วัน 2 คืน (อัพเดท 2567/2024)

เที่ยวเมืองแห่งขุนเขา มนต์เสน่ห์แห่งลาวเหนือ (ทัวร์ลาวส่วนตัว)

เริ่มต้น 6 ท่านขึ้นไป

ไฮไลท์การเดินทาง     

  • ไหว้พระธาตุหลวง ปูชนียสถานสำคัญของนครเวียงจันทน์
  • เที่ยววังเวียง สัมผัสความงามของกุ้ยหลินเมืองลาว
  • ออกไปสัมผัสมนต์เสน่ห์ของหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกแห่งลุ่มน้ำโขง
  • ล่องเรือแม่น้ำซอง ดื่มด่ำความงามของธรรมชาติที่วังเวียง
  • เที่ยวน้ำตกตาดกวางสี สวรรค์กลางป่าแห่งหลวงพระบาง
  • ทำบุญตักบาตรข้าวเหนียว มนต์ขลังแห่งวิถีชีวิตชาวหลวงพระบาง

 

โปรแกรมการเดินทาง     

วันแรก: กรุงเทพฯ – เวียงจันทน์ – วัดพระธาตุหลวง – วัดสีสะเกด – วังเวียง (-/-/D)  

 

วัดพระธาตุหลวง เวียงจันทน์

09:00 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ สายการบินแอร์เอเชีย (FD) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก 

12:05 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติวัตไต ประเทศลาว สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาวโดย สายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD1040 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง 

13:15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติวัตไต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านนมัสการ พระธาตุหลวง มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า พระเจดีย์โลกะจุฬามณี นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งของเมืองเวียงจันทน์ ตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย วัดพระธาตุหลวงถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศลาว บริเวณด้านหน้ามีอนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชประดิษฐานอยู่ และยังมีร้านค้าจัดจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านและหัตถกรรม จากนั้นเดินทางต่อไปยัง วัดสีสะเกด หรือ วัดสตสหัสสาราม กับหอคำ พระราชวังหลวงของกษัตริย์ลาวสมัยก่อน วัดสีสะเกดสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2094 โดยพระเจ้าโพธิสารราช พระบิดาของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ในพุทธศตวรรษที่ 16 สาเหตุที่ได้ชื่อว่าวัดสีสะเกดเพราะอยู่ใกล้กับพระราชวังหลวง พระเจ้าแผ่นดินลาวทุกพระองค์นับแต่พระเจ้าโพธิสารราชผู้สร้างนครหลวงเวียงจันทน์ ทรงบรรทมหันศีรษะมาทางวัดนี้เพื่อแสดงความเคารพต่อพระรัตนตรัย เพราะมีพระพุทธรูปสำคัญของล้านช้างประดิษฐานอยู่หลายองค์รวมทั้งพระแก้วมรกตที่ทรงอัญเชิญไปจากเชียงใหม่  ดังนั้นวัดนี้จึงถูกเรียกว่า "วัดสีสะเกด"  คือวัดที่พระเจ้าแผ่นดินทรงบรรทมหันพระเศียร(ศีรษะ)ไปยังที่ตั้งวัด ดุจพระสารีบุตรนอนหันศีรษะไปในทิศที่พระอัสชิอยู่ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อไปยัง วังเวียง อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวในแขวงเวียงจันทน์ ห่างจากเวียงจันทน์ประมาณ 160 ก.ม.

vangviang laos

วังเวียง เป็นเมืองในลุ่มน้ำซองที่เงียบสงบ โอบล้อมไปด้วยขุนเขากับสายหมอกยามเช้าที่สวยที่สุด ดังคำล่ำลือที่นักท่องเที่ยวขนานนามว่า กุ้ยหลินเมืองลาว  

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1) พัก โรงแรม Thavisouk Island หรือระดับเดียวกัน เชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

 

วันที่สองล่องเรือแม่น้ำซอง วังเวียง หลวงพระบาง น้ำตกกวางสี พระธาตุพูสี ตลาดไนท์บาร์ซ่า  (B/L/D)

 

น้ำตกตาดกวางสี

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2) ตื่นเช้ารับอรุณกับบรรยากาศเย็นสบาย นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำซอง ชมธรรมชาติและเก็บภาพบรรยากาศตลอดสองข้างทาง  ได้เวลาออกเดินทางไปยัง เมืองหลวงพระบาง ระหว่างทางจะเห็นวิถีชีวิตของชาวลาวสองข้างถนนที่ตั้งบ้านเรือนแตกต่างกันออกไป การเดินทางจะไต่ระดับขึ้นสู่ที่สูงสลับที่ลาดเชิงเขา ท่านจะได้พบเห็นป่าไม้และทิวทัศน์ที่สวยงามประกอบกับภูเขาหินปูนที่มีรูปร่างต่างๆ แปลกตาสวยงามและยังคงสามารถรักษาธรรมชาติไว้ได้อย่างดีและสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน      

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 3)

บ่าย นำท่านเดินทางต่อเพื่อไปชม น้ำตกตาดกวางสี ระหว่างทางผ่านหมู่บ้านชนบทชมวิถีชีวิตท้องถิ่น น้ำตกแห่งนี้ได้ ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของหลวงพระบางอยู่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 32 กิโลเมตร เป็นน้ำตกหินปูนไหลลดหลั่นชั้นเป็นชั้นๆ ความสูงประมาณ 75 เมตร น้ำในน้ำตกมีสีเขียวหรือฟ้าครามคล้ายสีของมรกต อิสระท่านถ่ายรูปเก็บความประทับใจหรือเดินเล่นชมความ ร่มรื่นของต้นไม้นานาพันธุ์ จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ตัวเมืองมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้ได้ยกให้เมืองหลวงพระบางเป็นเมืองวัฒนธรรมโลกและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ เนื่องจากมีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์โคโลเนียลสไตล์และขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงามและยังสืบทอดจนถึงปัจจุบัน เมืองหลวงพระบาง เคยเป็นเมืองหลวงเก่าในอดีต โดยพระเจ้าฟ้างุ้มได้รวบรวมแว่นแคว้นต่างๆ ของชนเผ่าไท - ลาว ในเขตลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำคาน แม่น้ำอู ก่อตั้งเป็นอาณาจักรล้านช้าง ณ ดินแดนริมน้ำโขง คือ หลวงพระบาง จากนั้นนำท่านขึ้นสู่ เขาพูสี ขึ้นบันได 328 ขั้น นมัสการ พระธาตุพูสี เจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง ตลอดทางขึ้นท่านจะได้รับความกลิ่นหอมจากดอกจำปาลาว (ดอกลีลาวดี) ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติลาว พระธาตุพูสีสร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุทธ เมื่อปี พ.ศ. 2337 พระธาตุเป็นรูปทรงดอกบัว อยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูง 21 เมตร จากนั้นชมพระอาทิตย์ตกดิน มองวิวทิวทัศน์เมืองหลวงพระบางได้อย่างชัดเจน 

 

หลวงพระบาง

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 4) หลังอาหารให้ท่านอิสระช้อปปิ้งที่ ตลาดมืด หรือ ถนนคนเดิน ยามเย็นของเมืองหลวงพระบาง ที่นี่มีสินค้าท้องถิ่นจำหน่ายมากมาย เช่น ผ้าทอมือ ผ้าซิ่นลาว ผ้าปัก เครื่องเงิน เครื่องไม้ โคมไฟที่ทำจากกระดาษสา วางเรียงรายริมทางเดินตั้งแต่หน้าพระราชวังจนถึงสุดมุมถนน 

พักโรงแรม โรงแรม Houngvilai Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

 

วันที่สาม: ตักบาตรข้าวเหนียว – ตลาดเช้า – วัดใหม่สุวรรณภูมาราม – พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง – ศูนย์เครื่องเงิน – วัดเชียงทอง – วัดวิชุนราช – สนามบินหลวงพระบาง – กรุงเทพฯ (B/L/-)

 

ตักบาตรข้าวเหนียว หลวงพระบาง 

เช้าตรู่ ตื่นเช้าไปร่วม ทำบุญ-ตักบาตรข้าวเหนียว กับชาวหลวงพระบางทุกเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆ รูปซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบางโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุขและความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงใน วัฒนธรรมของชาวล้านช้าง จากนั้นนำท่านเดินชม ตลาดเช้า ซึ่งเป็นตลาดสดที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอยมากมาย ท่านสามารถเลือกซื้ออาหารพื้นเมือง และของป่า ซึ่งเป็นแบบฉบับของชาวลาว 

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5) จากนั้นนำท่านชม วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่ชาวหลวงพระบางเรียกกันสั้นๆ ว่า "วัดใหม่" เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาวและยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2437 จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวังจวบจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างจากวัดอื่นๆ คือ ตัวอุโบสถ (สิม) ลักษณะจะเป็นอาคารทรงโรง หลังคามีขนาดใหญ่ มีชายคาปกคลุมทั้งสี่ด้านสองระดับต่อเนื่องกัน ผนังด้านหน้าพระอุโบสถตกแต่งด้วยภาพลงรักปิดทองดูเหลืองอร่ามงามตายาวตลอดผนัง เล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก โดยฝีมือช่างหลวงประจำรัชกาลเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ จากนั้นนำท่านเดินชม พระราชวังหลวงพระบาง (พิพิธภัณฑ์) ลักษณะอาคารเก่าที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส สถาปัตยกรรมฝรั่งเศสผสมผสานวัฒนธรรมลาวด้านนอกอาคารเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ พระราชวังแห่งนี้อดีตนั้นเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2518 พระราชวังหลวงพระบางได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “พระบาง”  พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง         

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 6)  

บ่าย นำท่านเข้าสู่ ศุนย์เครื่องเงิน ให้ท่านได้ชมงานฝีมือการทำเครื่องเงิน และเครื่องประดับของใช้ต่างๆ ที่มีการออกแบบไว้อย่างสวยงามเป็นสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงของลาว จากนั้นนำท่านเที่ยวชม วัดเชียงทอง ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญและมีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งจนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว จากนั้นชม วัดวิชุนราช เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองหลวงพระบางสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2058 ในรัชสมัยพระ เจ้าวิชุนราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง อดีตเคยอัญเชิญพระบางมาประดิษฐานในวัดแห่งนี้ เอกลักษณ์ของวัดนี้เห็นได้จากประตูไม้ที่มีการแกะสลักอย่างสวยงาม และมีสถาปัตยกรรมแบบขอมที่ได้แบบมาจากปราสาทวัดภู แขวงจำปาศักดิ์ในเขตลาวภาคใต้ ด้านในวัดมีพระพุทธรูปเก่าแก่ และศิลาจารึกรูปแบบ ต่างๆ โดยมเหสีของพระเจ้าวิชุนราชได้ชักนำให้มีการสร้างพระธาตุขึ้นซึ่งต่างจากพระธาตุอื่นๆ คือสร้างเป็นรูปทรงกลมตัดครึ่งมองคล้ายผลแตงโมชาวลาวจึงเรียกขานกันติดปากว่า “พระธาตุหมากโม” (ธาตุปะทุม) ต่อมา พ.ศ. 2485 วัดนี้จึงได้เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บรักษาพระพุทธรูปและวัตถุโบราณจำนวนมาก สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางสู่ สนามบินหลวงพระบาง เช็คอิน รับบอร์ดดิ้งพาส เตรียมตัวกลับ

16:30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD1031 

17:55 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

สอบถาม โทร: 098-990-4586 หรือ คุยกับเราทางไลน์ 


Add Friend

แนะนำโปรแกรมทัวร์ลาว 2567/2024

Visitors: 33,358